วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

พระหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ หลังเตารีด ปี05 ตอนที่1

หลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ หลังเตารีด ปี05


      การสร้างหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ รุ่น 05 หรือ หลังเตารีด ในปีพ.ศ.2505 จัดเป็นพิธิพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีการสร้างพระนับแสนองค์ อีกทั้งยังมีหลวงพ่อทวด หลายวัดที่สร้างขึ้นมาร่วมพิธีปลุกเสกมากที่สุดด้วย
หลวงพ่อทวดที่จัดสร้างมากที่สุดใน 2505 คือ "หลวงพ่อทวดหล่อแบบโบราณและพิมพ์ปั๊มหลังตัวหนังสือ" โดยการอุปถัมป์ของ พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร
ในความจริง หลวงพ่อทวด ปี2505 เทหล่อพระปั๊มจากโรงหล่อที่กรุงเทพ

แบบพิมพ์ที่สร้าง
1.หลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่ หลังเตารีด
2.หลวงพ่อทวดพิมพ์กลาง หลังเตารีด
3.หลวงพ่อทวดพิมพ์เล็ก หลังเตารีด
4.หลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่ หลังตัวหนังสือ
5.หลวงพ่อทวดพิมพ์เล็ก หลังตัวหนังสือ

การเทหล่อพระหลวงพ่อทวด
      หลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่ ที่เทหล่อครั้งแรกคือ หลวงพ่อทวด เนื้อเมฆพัตร์ ทำพิธีเทหล่อบริกลางลานวัดคอกหมู โดยท่านอาจารย์ สวัสดิ์ เดชพ่วง ได้นิมนต์ท่านพระครูโหมด บุญญวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสมาประกอบพิธี

การเทหล่อพระหลวงพ่อทวดครั้งที่ 2
      ครั้งนี้ก็เทหล่อที่วัดคอกหมู ทำพิธีเหมือนกับคราวแรก พระองค์เจ้าเฉลิมฯได้นำแผ่นทองชนวนที่ประกอบพิธีปลุกเสกที่วัดช้างไห้ใ่ส่รวมไปกับเนื้อโลหะ แต่คราวนี้ที่พิเศษคือ ท่านนำทองคำส่วนตัวหนัก 20 บาท ใส่เบ้าหลอมด้วย และให้อาจารย์สวัสดิ์เทหล่ออกมา ได้ 99 องค์

การเทหล่อพระหลวงพ่อทวดครั้งที่ 3 
         พระองค์เจ้าเฉลิมฯ ได้มากำกับดูแลตลอด  คราวนี้เป็นพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด 6,000 องค์ โดยการเทหล่อเป็นช่อๆ พระช่อหนึ่งพระคู่ได้เกือบร้อยองค์ เนื้อพระที่หล่อครั้งที่ 3 เนื้อในออกไปทางเนื้อนาก ในการเทหล่อพระหลวงพ่อทวดในระยะหลังๆ เนื้อหาพระเริ่มเปลี่ยนไปมีทั้งแก่ทองแดงและแ่ก่เงินผสมกับโลหะหลายอย่าง ที่ขาดไม่ได้ พระองค์เจ้าเฉลิมฯท่านจะใส่เงินและทองคำไปด้วย ทุกครั้งที่หล่อพระ

        พระหลวงพ่อทวด ปี05 เมื่อผ่านขั้นตอนการหล่อแล้ว อาจารย์สวัสดิ์ นำพระพิมพ์ใหญ่และพิมพ์กลาง ส่งให้นายบ้วนอี๊ด แซ่คู เจ้าของโรงงานบ้านอยู่แถวสถานีหัวลำโพงเป็นผู้รับเหมาแต่งพระหลวงพ่อทวดที่หล่อทั้งหมดยกเว้นพระหลวงพ่อทวดพิมพ์เล็กที่ไม่แต่ง

ปรากฎว่ามีพระหลวงพ่อทวดไม่น้อยที่ต้องคัดออก เนื่องจากองค์พระขาดความสมบูรณ์จนต้องแกะแม่พิมพ์ด้วยเหล็กขึ้นมาใหม่อีก 10 พิมพ์ มาปั๊มทับพระองค์ที่ไม่สวยอีกครั้ง พระหลวงพ่อทวดที่ต้องปั๊มซ้ำมีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์กลางหรือที่นักสะสมเรียกว่า"พระหลวงพ่อทวดพิมพ์ปั๊มซ้ำ"

ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากแต่งพิมพ์อาจารย์สวัสดิ์ ก้อนำพระหลวงพ่อทวดไปชุบน้ำยาสีดำ แล้วนำไปผึ่งแดดก่อนจะนับบรรจุหีบขึ้นรถไฟ จุดหมายปลายทางคือ วัดช้างไห้ 




พระหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ หลังเตารีด 2505 ตอนที่2


การแยกพิมพ์พระ
  พระหลวงพ่อทวดไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก จะนิยมเรียกว่า"พระพิมพ์หลังเตารีด"ทั้งเนื้อเมฆพัตร์และโลหะผสม สาเหตุที่ต้องเรียกเช่นนี้ก็เพราะว่า ด้านหลังขององค์พระเหมือนด้านหลัง ถึงตรงนี้ประมาณว่า 
พระหลวงพ่อทวด เนื้อเมฆพัตร์น่าจะมีอย่างน้อย 2 แบบ
พระหลวงพ่อทวด พิมพ์ใหญ่ เนื้อนวโลหะหรือโลหะผสม มี 3 แบบ
พระหลวงพ่อทวด พิมพ์กลาง มี 2 แบบ
พระหลวงพ่อทวด พิมพ์เล็ก 2 แบบ
ซึ่งต้องถือว่า ยังไม่ข้อยุติตายตัว

พระหลวงพ่อทวด เนื้อเมฆพัตร์ แบบที่ 1
ดูจากพิมพ์แล้วคล้ายๆ หลวงพ่อทวดรุ่นแรก 2497 มีขนาดกว้างประมาณ 2 ซ.ม สูง 3.7 ซ.ม. จุดสังเกตพระหลวงพ่อทวดพิมพ์ใหญ่เนื้อเมฆพัตร์ 2505 แบบที่1
1.เค้าหน้าโหนกกลมป่อง มีเส้นขีดเป็นทางๆ เว้นช่างห่างมากนูนหนา
2.ขยับยุบทั้ง 2 ข้าง
3.เส้นไหปลาร้ายุบเส้นขนาน
4.เส้นริ้วจีวรเป็นแท่งสั้นๆ เว้นช่างห่างมากนูนหนา
5.ปลายลูกบวบที่แขนซ้ายเรียวแหลมไปตามแนวเข่า
6.ริ้วจีวรพาดแขนซ้ายเป็นเส้นนูนหนา
7.ปลายนิ้ว มือขวาเรียวยาวพาดเลยข้อมือซ้ายขนานฐาน

พระหลวงพ่อทวด เนื้อเมฆพัตร์ แบบที่ 2
1.เค้าหน้ากลมป่อง เบ้าตาตื้น
2.ขยับยุบใบหูกาง
3.ริ้วจีวรเป็นเส้นนูนปลายวิ่งเฉียง
4.ผ้าสังฆาฏิเป็นร่องกลางผ้า ปลายสังฆาฎิด้านล่างพาดเฉียงเลยข้อมือขวา
5.แขน 2 ข้าง แลดูสั้น
6.ขา 2 ข้าง ไขว้กันต่างระดับ ปลายพระบาทหงายปรากฎนิ้วพระบาท
7.ริ้วจีวรพาดแขนซ้ายเส้นเล็กถี่ พาดตกแขน
8.ที่หน้าแข้ง 2 ข้างมีรอยบาก ข้างละ 2 เส้น (แบบที่1 มีข้างละ 1 )

พระหลวงพ่อทวด เนื้อโลหะ แบบที่ 1
1.เค้าหน้ายาวรี ขมับ 2 ด้านยุบ ก้มหน้าเล็กน้อย
2.จมูกโ่ด่งใหญ่ ริมฝีัปากหนากว้าง
3.ไหปลาร้าขวาเป็นบ่อขนานแนวหัวไหล่
4.ปลายผ้าสังฆาฎิด้านล่างจะอยู่กึ่งกลางฝ่ามือ
5.ปลายนิ้วมือขวาเรียวแหลม
6.ข้อมือซ้ายมักจะคอดเล็กว่าข้อมือขวา
7.ปลายกลีบบัวที่ 1-2 มักทะลุเกินไปยังเข่าขวา
8.มีเส้นแตกที่ริ้วจีวรพาดเฉียงปลายแตะริ้วจีวรอีกเส้นบนท่อนแขนซ้าย

พระหลวงพ่อทวด เนื้อโลหะ แบบที่2
1.เค้าหน้ากลม รียาว  หน้าหลวงพ่อทวดมองตรงๆ
2.หัวไหล่เป็นบ่อตื้นๆ
3.ผ้าสังฆาฎิเป็นแผ่นกว้างหนา
4.ริ้วจีวรหน้าอกขวาเป็นเส้นเฉียงยาวจดสีข้างทุกเส้น
5.สีข้างเป็นร่องตื้นลงด้านล่าง
6.การนั่งแบบลัดตัวแลดูสูงชลูด
7.หน้าอกแลดูนูนสูง

พระหลวงพ่อทวด เนื้อโลหะ แบบที่ 3
รูปแบบโดยรวมคล้ายแบบที่ 1 และ 2 แต่ลายละเอียดในพิมพ์ที่ขาดหายไป ซึ่งผลจากการเทหล่อ พระที่ชำรุดกลุ่มนี้จึงต้องแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่นำมาปั๊มซ้ำอีกที เกิดเป็นพิมพ์ใหญ่ปั๊มซ้ำ มีจุดสังเกต ดังนี้
1.เค้าหน้าเล็กกลม
2.ไหปราร้าเป็นร่องตื้นสั้นขนานไหล่
3.หน้าอกแลดูนูนโค้ง
4.ผ้าสังฆาฏิวางแนวดิ่ง
5.ปลายผ้าสังฆาฎิด้านบนแบบรวบห่างคอและจางหาย
















วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ รุ่น2 ปี2502

หรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ รุ่น2 ปี2502
       เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่น ๒ เป็นเหรียญที่พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จัดสร้างขึ้นเป็นลำดับที่สอง ต่อจากเหรียญเสมารุ่นแรก โดยเหรียญรุ่นสองนี้มีลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ จัดสร้างด้วยกันหลายเนื้อ เช่น เนื้อทองคำ เนื้อนาก เนื้อทองแดงรมดำ มีการจัดสร้างขึ้นมาหลายบล็อกหลายแม่พิมพ์ด้วยกันเพื่อให้ได้จำนวนเหรียญเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ที่มีความศรัทธาต่อ พระเครื่องหลวงปู่ทวด นั่นเอง
โดยสามารถแบ่งบล็อกแม่พิมพ์เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่น ๒ เป็น ๒ พิมพ์หลักโดยพิจารณาจากขนาดของเม็ดไข่ปลาที่ขอบเหรียญด้านหน้า มีดังนี้ คือ เหรียญไข่ปลาเล็ก เหรียญไข่ปลาใหญ่ ซึ่งแต่ละพิมพ์ยังสามารถแบ่งออกไปได้อีกหลายบล็อก 

1.เหรียญหลวงปู่ทวดพิมพ์ไข่ปลาใหญ่ แบ่งออกเป็นบล็อกต่างๆได้ดังนี้
1.1 บล็อกไม้มลาย
1.2 บล็อกพุทย้อย
1.3 บล็อกสายฝน
1.4 บล็อกธรรมดา

2.เหรียญหลวงปู่ทวดพิมพ์ไข่ปลาเล็ก แบ่งเป็นบล็อกย่อยได้ดังนี้
2.1 บล็อกพุทย้อยยาว
2.2 บล็อกหน้าใหญ่ พุทย้อยสั้น
2.3 บล็อกหน้าแก่ พุทย้อยสั้น
2.4 บล็อกทองคำ หน้าผาก ๓ เส้น
2.5 บล็อกทองคำ หน้าผาก ๒ เส้น

เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่น ๒ พิมพ์ที่ได้รับความนิยมที่สุด คือ เหรียญ”ไม้มลาย” (โดยสังเกตจากคำว่า “ช้างให้” เขียนเป็น “ช้างไห้”) มีราคาค่านิยมรองจากเหรียญรุ่นแรกเท่านั้น มูลค่าการสะสมในเหรียญสวยๆ ผิวรมดำเดิมไม่สึกไม่แหว่งน่าจะมีราคาอยู่ที่ แสนบาทขึ้นไปถ้าจมูกไม่บี้แบนและรมดำเดิม แท้ดูง่าย เซียนสายใต้สู้กันหลายแสนเพราะหายากมาก (บล็อกนี้มีจำนวนหลักร้อยเท่านั้น) 





ตำหนิเหรียญหลวงปู่ทวด รุ่น ๒ บล็อก”ไม้มลาย”

ด้านหน้า

1.เม็ดไข่ปลารอบๆเหรียญเป็นเม็ดนูนเต่งชัดเจน

2.คำว่า”ไห้” สะกดด้วยไม้มลาย

3.หางตาขวามีจุดกลมๆ เป็นเม็ดเล็กเล็ก

4.มีเส้นแตกข้างหูขวาลากยาวไปจรดขอบ เหรียญเก๊จะเป็นเส้นแข็งทื่อไม่พลิ้วเป็นธรรมชาติ

5.บริเวณไหล่ซ้ายตรงผ้าสังฆาฎิ จะมีเส้นบางๆพาดจากผ้าสังฆาฎิวิ่งไปจรดยันต์ เหรียญเลียนแบบเส้นจะแข็งไม่ปะติดปะต่อ










ด้านหลัง
1. เหรียญมักจะมีเนื้อปลิ้นและรอยตาไก่อันเป็นเอกลักษณ์ของเหรียญปั๊มยุค ๒๕๐๐ ขึ้นไป
2.ใต้หูเหรียญ มีร่องรอยเส้นขนแมว เส้นเสี้ยนอยู่หลายเส้น หากพื้นเหรียญหยาบสากและไม่มีรอยเส้นต่างๆให้ระวัง
3.คำว่า”พระครู” ตัว ค.ควาย มีเส้นซ้อนอยู่ด้านบน คล้ายๆเป็นรอยปั๊มซ้ำ
4.ตัว วงเล็บปิด ที่คำว่า ”ทิม” มีร่องรอยการแกะพิมพ์พลาดคล้ายกับเขียนว่า “(ทิม))”
5.ข้างหูซ้ายมีเส้นแตกเฉียงขึ้นด้านบน
6.มีเส้นแตกคมๆ ดิ่งจากข้างหูขวาลงไปที่ไหล่ขวา




เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นแรก 2500


หรียญหลวงปู่ทวดรุ่นแรก วัดช้างให้ พ.ศ.2500

            เหรียญหลวงปู่ทวด ร่นแรก สร้าง 2 ครั้ง ในช่วงปี พ.ศ. 2500 ถึง ปี พ.ศ.2501 หลังจากที่มีการสร้างพระเนื้อว่านรุ่นแรกในปี พ.ศ.2497 แล้วยังมีความต้องการพระเครื่องหลวงปู่ทวดอีกเป็นจำนวนมาก ท่านอาจารย์ทิม (พระครูวิสัยโสภณ) จึงได้ทำการจัดสร้างพระรุ่นต่อมา แต่ว่าเป็นการสร้าง ในรูปแบบเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ทวดเป็นครั้งแรก (ของโลก) เป็นเหรียญทองแดงธรรมดาไม่ได้ลงกะไหล่ไว้ มีจำนวนเหรียญ 3000 เหรียญ แต่ว่าไม่พอต่อความต้องการของประชาชนที่นับถือต่อองค์หลวงปู่ทวด ดังนั้นจึงมีการสร้างเหรียญรุ่นแรกเป็นครั้งที่ สอง อีกประมาณ 5000 เหรียญ โดยใช้แม่พิมพ์ตัวเดิมแต่ได้ลงกะไหล่เงินและกะไหล่ทองเอาใว้เป็นจุดสังเกต ทำเป็นเหรียญทรงเสมา มี บล็อกเดียวพิมพ์เดียว มีเฉพาะเนื้อทองแดงเท่านั้น......




ตำหนิพิมพ์ด้านหน้า

1.ปลายนิ้วเท้าหลวงปู่ทวดทั้งสองข้างมีเนื้อเกินยื่นออกมา แลดูคล้ายเล็บ
2.ผ้าอาสนะที่หลวงปู่นั่งอยู่มีเส้นขนแมวแผ่วๆ ดูพลิ้วเป็นธรรมชาติอยู่หลายเส้น
3.ใต้รูใส่ห่วงเหรียญ มีคลีบเนื้อเกินเป็นเส้นเล็กๆ 
4.มีเนื้อเกินในร่องระหว่างฐานบัว กลีบที่ 2 และที่ 3 เนื้อเกินจุดนี้เป็นตำหนิในแม่พิมพ์ (ของเลียนแบบก็มี แต่จะแข็งกระด้างไม่พลิ้วและก้อนใหญ่ผิดธรรมชาติ)
5.กลีบบัวแถวบนด้านขวามือเราจะยื่นเกินผ้าอาสนะเห็นชัดเจน ส่วนด้านซ้ายกลีบบัวจะยื่นออกมาล้ำผ้าอาสนะเช่นกันและมีเนื้อเกินเป็นก้อนเล็กๆอยู่ด้านบนตรงกับอาสนะพอดี
6.พื้นผิวเหรียญบางเหรียญมีหลุมหรือแอ่งสั้นๆ อยู่ทั่วไป เกิดจากการที่เศษโลหะร่วงลงไปอุดแม่พิมพ์ระหว่างการปั๊ม
7.เหนือริมฝีปากบน ใต้จมูกหลวงปู่มีเส้นขนแมวพาดขวางในแนวนอน เส้นไม่คมมากหากแต่ว่าติดชัดเจน ถ้าไม่มีหรือว่ามีแต่เส้นตื้นมักจะไม่ดี 
8.นัยตาขวาเม็ดจะใหญ่กว่าตาซ้าย และอยู่ต่ำกว่าตาช้ายเม็ดลูกตาทั้งสองข้างคมเห็นชัดเจน 
9.ศรีษะหลวงปู่ทวดด้านบน เยื้องไปทางขวา(ซ้ายมือเรา)มีรอยขยักอยู่ 1 รอยเห็นชัดเจน
10.มีเส้นซ้อนที่ด้านในซุ้ม บริเวณคำว่า “เหยียบ” บางเหรียญอาจจะต้องตะแคงส่องดูถึงจะเห็น
11.ตัวหนังสือเป็นแท่งคมชัดเจน ไม่ล้ม ไม่สะบัด ไม่เบลอ
12.ข้อนี้สำคัญมาก “หลวงปู่ทวด” ต้องไม่มีเส้นผมครับ ถ้ามีแสดงว่าเป็นรุ่นอื่นไม่ใช่รุ่นแรกอย่างแน่นอน





ตำหนิพิมพ์ด้านหลัง

1.ตามขอบเหรียญในสภาพที่สมบูรณ์ จะต้องมีเนื้อปลิ้นเนื้อเกินในบางจุดไม่ซ้ำกัน เกิดจากแรงกระแทกของเครื่องปั๊ม
2.ตัวอักขระขอมด้านบนต้องชัดเจนไม่เบลอและที่สำคัญตัวอักขระ “พะ ทะ” หัวตัวอักขระมุมขวาจะต้องเป็นหลุมสามเหลี่ยมตั้งขึ้นไม่มากก็น้อย ถ้าดูเบลอๆ ให้วางได้เลย
3.มีเส้นเกินเป็นติ่งเล็กๆ แต่คมตรงชายจีวรด้านขวาล่าง
4.คำว่า “พระครูวิสัยโสภน” ตัว “น” ตรงจุดกลมๆด้านล่างมักจะมีเนื้อเกินเป็นทางยาว ลากขึ้นไปข้างบนเกือบทุกเหรียญ
5.ตามพื้นผิวเหรียญต้องมีความแน่น ไม่มีฟองอากาศ ที่สำคัญต้องไม่บวม ถ้าบวมจบ........
6.ดูขอบเหรียญว่าเป็นเหรียญหล่อหรือเหรียญปั๊ม เหรียญปั๊มต้องมีเส้นหยาบๆเกิดจากตัวปั๊มที่กระแทกกับเหรียญอย่างแรงแต่ถ้าเป็นเหรียญหล่อก็จะไม่รอยที่ว่าถ้ามีก็จะเบลอไม่คมชัด (ให้หาเหรียญที่ออกใหม่ๆมาส่องดูขอบเอาให้จำขึ้นใจไปเลย)
7. ใต้คางหลวงพ่อทิมมีเส้นซ้อนคมๆ ต้องตะแคงดูจะเห็นชัด


พระเครื่อง หลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ปี2497

พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน วัดช้างไห้ ปี2497

                                               พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่กรรมการ 97


                                            พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่ไหล่จุด
                                                   พระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน พิมพ์พระรอด




หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างไห้ ปัตตานี









ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้
              หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เหยียบน้ำทะเลจืด เกิดเมื่อ วันศุกร์ เดือน4 ปีมะโรง พ.ศ.2125 ณ บ้านสวนจันทร์ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มีชื่อว่า “ ปู่ ” หรือ “ ปู ” บิดามีนามว่า (ตาหู) มารดามีนามว่า (นางจันทร์) มีฐานะยากจนปลูกบ้านอาศัยที่ดินเศรษฐีผู้หนึ่งไว้ชื่อ “ปาน” ตาหูและนางจันทร์เป็นข้าทาสของเศรษฐีปาน แห่งเมืองสทิงพระ ระยะที่หลวงพ่อทวดเกิด เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ข้าวในนา ในระหว่างที่พ่อแม่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ ได้ผูกเปลให้ลูกน้อยนอน ทำงานไปก็คอยเหลียวดูลูกน้อยเป็นระยะ แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คือนางจันทร์ได้เห็นงูตัวใหญ่มาพันที่เปลลูกน้อยแล้วชูคอแผ่แม่เบี้ย นายหู-นางจันทร์ได้พนมมือบอกเจ้าที่เจ้าทาง อย่าให้ลูกน้อยได้รับอันตรายใดๆเลย ด้วยอำนาจบารมีของเด็กน้อยเจ้าปู่ งูใหญ่จึงคลายลำตัวออกจากเปลน้อย เลื้อยหายไป ต่อมาเมื่อพญางูจากไปแล้ว บิดามารดาทั้งญาติต่างพากันมาที่เปลด้วยความห่วงใยทารก ก็ปรากฏว่าเด็กชายปู่ยังคงนอนหลับปุ๋ยสบายดีอยู่เป็นปกติ แถมมีลูกแก้วกลมใส ขนาดย่อมกว่าลูกหมากเล็กน้อยส่องเป็นประกายอยู่ข้างตัวเด็ก ตาหู นางจันทร์ มีความเชื่อว่าเทวดาแปลงกายเป็นงูใหญ่นำดวงแก้ววิเศษมามอบให้กับลูกของตน เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่อง จึงไปพบตาหู-นางจันทร์แล้วเอ่ยปากขอดวงแก้วนั้นซึ่งตาหู-นางจันทร์ ไม่อาจปฏิเสธได้เศรษฐีปานจึงได้ลูกแก้วไปครอบครอง แต่ไม่นานนักเกิดเหตุวิบัติต่างๆกับครอบครัวของเศรษฐีบ่อยๆ พอหาสาเหตุไม่ได้เลยนึกได้ว่าอาจจะเกิดจากดวงแก้วนี้ จึงนำไปคืนให้ ตาหู-นางจันทร์เจ้าของเดิม  ส่วนตาหู-นางจันทร์เมื่อได้ดวงแก้วกลับคืนมาจึงเก็บรักษาไว้อย่างดี นับแต่นั้นมาฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัว ก็ดีขึ้นเป็นเรื่อยๆ
     พออายุได้ประมาณ 7ขวบ บิดามารดาพาไปฝากไว้กับ สมภารจวง วัดดีหลวง เพื่อให้เรียนหนังสือ เมื่ออายุได้ 14ปี สมภารจวง วัดดีหลวง จึงบวชเณรให้แล้วพาไปฝากไว้กับพระครูสัทธรรมรังสี วัดสีหยง เพื่อเรียนมูลกัจจายน์
     ท่านพระครูสัทธรรมรังสี องค์นี้ทางคณะสงฆ์ของแผ่นดินจากกรุงศรีอยุธยาได้ส่งท่านมาเผยแพร่ศาสนาและสั่งสอยธรรมทางภาคใต้ เมื่อ “สามเณรปู่” เรียนอยู่ได้จนอาจารย์ไม่มีอะไรจะสอนแล้วจึงได้แนะนำให้สามเณรปู่ ไปเรียนต่อที่ สำนักพระครูกาเดิม วัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อสามเณรปู่ อายุครบ 20ปี พระครูกาเดิม วัดเสมาเมือง ได้อุปสมบทตามเจตนารมณ์ของสามเณรปู่ และทำญัตติอุปสมบทตั้งฉายาว่า “ สามีราโม” โดยเอาเรือ 4ลำ มาเทียบขนานเข้าเป็นแพ ทำญัตติ ณ คลองเงียบแห่งหนึ่ง ต่อมาก็เรียกคลองนี้ว่า “คลองท่าแพ” มาจนทุกวันนี้ ซึ่งเป็นชื่อจากพิธีกรรมในครั้งอดีต